เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [4. วิภังควรรค] 6. มหากัมมวิภังคสูตร

ฯลฯ เป็นมิจฉาทิฏฐิในโลกนี้ หลังจากตายแล้วได้ไปเกิดในอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก’ แต่เราไม่คล้อยตามวาทะของเขาผู้กล่าว
อย่างนี้ว่า ‘ท่านผู้เจริญ ได้ยินว่า บุคคลใดเป็นผู้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
ฯลฯ เป็นมิจฉาทิฏฐิ บุคคลนั้นทั้งหมดหลังจากตายแล้วจะไปเกิด
ในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก’ เราไม่คล้อยตามแม้วาทะของเขา
ผู้กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ชนเหล่าใดรู้อย่างนี้ ชนเหล่านั้นชื่อว่ารู้ชอบ
ชนเหล่าใดรู้นอกเหนือไป ชนเหล่านั้นชื่อว่ารู้ผิด’ เราไม่คล้อยตาม
แม้วาทะของเขาที่พูดปักใจลงไปถึงเรื่องที่เขารู้เอง เห็นเอง ทราบเอง
ตามแรงจูงใจ ตามความปักใจในเรื่องนั้นว่า ‘นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่น
ไม่จริง’
ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะตถาคตมีความรู้ในมหากัมมวิภังค์เป็นอย่างอื่น
2. บรรดาสมณะหรือพราหมณ์ 4 จำพวกนั้น เราไม่คล้อยตามวาทะ
ของสมณะหรือพราหมณ์ผู้กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านผู้เจริญ ได้ยินว่า
กรรมชั่วไม่มี วิบากของทุจริตไม่มี’ เราคล้อยตามวาทะของเขา
ผู้กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ข้าพเจ้าได้เห็นบุคคลโน้น ผู้มักฆ่าสัตว์
ลักทรัพย์ ฯลฯ เป็นมิจฉาทิฏฐิในโลกนี้ หลังจากตายแล้วได้ไป
เกิดในสุคติโลกสวรรค์’ แต่เราไม่คล้อยตามวาทะของเขาผู้กล่าว
อย่างนี้ว่า ‘ท่านผู้เจริญ ได้ยินว่า บุคคลใดมักฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
ฯลฯ เป็นมิจฉาทิฏฐิ บุคคลนั้นทั้งหมดหลังจากตายแล้วจะไปเกิด
ในสุคติโลกสรรค์’ เราไม่คล้อยตามแม้วาทะของเขาผู้กล่าวอย่างนี้ว่า
‘ชนเหล่าใดรู้อย่างนี้ ชนเหล่านั้นชื่อว่ารู้ชอบ ชนเหล่าใดรู้นอก
เหนือไป ชนเหล่านั้นชื่อว่ารู้ผิด’ เราไม่คล้อยตามแม้วาทะของเขา
ที่พูดปักใจลงไปถึงเรื่องที่เขารู้เอง เห็นเอง ทราบเอง ตามแรงจูงใจ
ตามความปักใจในเรื่องนั้นว่า ‘นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 14 หน้า :364 }